ตัวอย่างหนึ่งของการร่วมมือร่วมใจที่เกิดขึ้นได้ทุกซอกทุกมุมของประเทศไทย

เมื่อวานนี้ มีเวทีปรึกษาหารือจัดตั้งคลินิกดินฯ ศูนย์ข้าวฯ ต.โคกสะอาด อ.หนองแซง ต.ท่าช้างอ.เสาไห้ และ ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง ได้รับการเอื้อเฟื้อสถานที่จากนายก อบต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นอย่างดี

เป็นอีกครึ่งวันที่ทุกคนมีความสุขมากๆ ได้พบเพื่อนใหม่ ได้รู้สึกถึงความเอื้ออาทรที่มีต่อกัน ซึ่งเป็นรากฐานสังคมไทยในอดีต แต่วันนี้ถูกกัดกร่อนด้วยระบบทุนนิยมสามานย์

“ครบเครื่อง” ผู้ใหญ่ร่ม (น่าจะเหนื่อยสุดๆ) นำทีมชาวนานำผู้นำของศูนย์ข้าวฯ ห้วยขมิ้น มาช่วยกันจัดเวที โดยมีทีมกรมส่งเสริม ทั้งระดับกรมฯ จังหวัด และอำเภอ ทีม NECTEC ทีม “ปุ๋ยสั่งตัด” อีกทั้งทีมสโมสรโรตารีกรุงเทพ เบญจสิริ คอยเป็นกำลังใจ และให้ข้อเสนอแนะ

คลินิกดินฯ 3 แห่งจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ที่สระบุรี ทันการปลูกข้าวฤดูหน้า ได้นัดฝึกทีมตรวจดิน ครึ่งวันเช้า 21 เม.ย. ที่ อบต.ห้วยขมิ้น และอาจเกิดคลินิกดินฯ ที่ชลบุรี 1 แห่งด้วย เนื่องจากสามีภรรยาชาวสวนยางชลบุรี ที่มาร่วมสังเกตการณ์ให้ความสนใจมากและจะมาฝึกตรวจดินในเดือนหน้าด้วย นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายไร่ บริษัท เบทราโกร ก็สนใจจะไปหนุนเสริมให้ชาวไร่ข้าวโพดช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ให้จัดตั้งคลินิกดินฯ

คุณนิรัน เลขาฯ ศูนย์ข้าวฯ ห้วยขมิ้น ให้ข้อมูลว่า ศูนย์ข้าวชุมชนมีกว่า 4 พันแห่ง ที่ทำกันเป็นเรื่องเป็นราว มีไม่ถึงพันแห่ง ผมจึงมองวิกฤตจำนำข้าวเป็นโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมชาวนาไทย โดยสร้างโอกาสให้ผู้ที่มีจิตอาสามาพบกันในบรรยากาศเหมือนเมื่อวานนี้ เพื่อหนุนเสริมศูนย์ข้าวฯ ทั้งประเทศให้เข้มแข็งขึ้น น่าคิดครับ? “ไม่มีชาวนาญี่ปุ่นขายข้าวให้โรงสี”

สุดท้ายนี้ ขอนำข้อคิดผู้ใหญ่ร่ม วรรณประเสริฐ ประธานศูนย์ข้าวฯ ห้วยขมิ้น ใน นสพ.ไทยรัฐ มาฝาก อ่านแล้ว อยากไปขอพบเพื่อน (รองนายกฯ และ รมต.กษ.) ให้เสียสละเว้นวรรคสัก 6 เดือน แล้ว ให้ผู้ใหญ่ร่มเข้าไปแก้ปัญหาชาวนา? เพราะปัญหาใหญ่ของสังคมไทยวันนี้ คือ “คนทำไม่ได้คิด คนคิดไม่ได้ทำ”

ประทีป วีระพัฒนนิรันดร์

29 มี.ค. 57